การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม

การขายสินค้า (ที่ไม่ใช่การส่งออก)หรือการให้บริการดังนี้

การขายพืชผลทางการเกษตร
การขายสัตว์ ไม่ว่าจะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต
การขายปุ๋ย
การขายปลาป่น อาหารสัตว์
การขายยาหรือเคมีภัณฑ์ที่ใช้สำหรับพืชหรือสัตว์
การขายหนังสือพิมพ์ นิตยสาร ตำราเรียน
การให้บริการการศึกษาของสถานศึกษาราชการ สถานศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน หรือโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน
การให้บริการที่เป็นงานทางศิลปะและวัฒนธรรมในสาขาและลักษณะการประกอบกิจการที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมลตรี
การให้บริการประกอบโรคศิลป การสอบบัญชี การว่าความ หรือการประกอบวิชาชีพอิสระอื่นที่อธิบดีกำหนด
การให้บริการรักษาพยาบาลของสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
การให้บริาการวิจัย หรือการให้บริการทางวิชาการ ทั้งนี้ ในสาขาและลักษณะการประกอบกิจการที่อธิบดีกำหนด
การให้บริการห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์
การให้บริการตามสัญญาจ้างแรงงาน
การให้บริการจัดแข่งขันกีฬาสมัครเล่น
การให้บริการของนักแสดงสาธารณะ ทั้งนี้เฉพาะในสาขาและลักษณะการประกอบกิจการตามที่อธิบดีกำหนด
การให้บริการขนส่งในราชอาณาจักร
การให้บริาการขนส่งระหว่างประเทศ ซึ่งมิใช่เป็นการขนส่งโดยอากาศยานหรือเรือเดินทะเล
การให้บริการเช่าอสังหาริมทรัพย์
การให้บริการของราชการส่วนท้องถิ่น
การขายสินค้าหรือการให้บริการของกระทรวง ทบวง กรม ซึ่งส่งรายรับทั้งสิ้นให้แก่รัฐโดยไม่หักรายจ่าย
การขายสินค้าหรือการให้บริการเพื่อประโยชน์แก่การศาสนา หรือการสาธารณะกุศลภายในประเทศ ซึ่งไม่นำผลกำไปจ่ายในทางอื่น
การนำเข้าสินค้า

สินค้าตามที่กล่าวข้างต้น
สินค้าจากต่างประเทศที่นำเข้าไปในเขตปลอดอากร ทั้นี้เฉพาะสินค้าที่ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
สินค้าที่จำแนกประเภทไว้ในภาคว่าด้วยของที่ได้รับยกเว้นอากรตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราศุลการกร
สินค้าซึ่งนำเข้าและอยู่ในอารักขาของศุลกากร แล้วได้ส่งกลับออกไปต่างประเทศ โดยได้คืนอากรขาเข้าตามกฎหมายว่าด้วยศุลการ
การนำเข้าสินค้าของสถานศึกษาของรัฐ สถานศึกษาของเอกชนที่จัดการศึกษาในระบบตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ หน่วยงานที่กฎหมายกำหนดให้มีหน้าที่และวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาและการวิจัยอันเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและสมาคมและมูลนิธิที่มีวัตถถุประสงค์เพื่อการวิจัยการศึกษาซึ่งได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษา ทังนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกระกาศกำหนด
ผู้ประกอบซึ่งประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและกิจการดังกล่าวมีมูลค่าของฐานภาษีไม่เกินมูลค่าของฐานภาษีของกิจการขนาดย่อม คือไม่เกิน 1,800,000 บาท

FacebookTwitterGoogle+LineEmailShare

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *